ตะวันออกทูเดย์

ข่าวเข้ม ทันสถานการณ์

ข่าวทั่วไป

สืบท่องเที่ยวรวบภรรยาคนผิวสี แก๊ง Romance Scams แสร้งรักออนไลน์ตุ๋นเงินเหยื่อสูญกว่า 1.3 ล้านบาท

         ด้วยปัจจุบันได้มีเหตุอาชญากรรมที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี (โรแมนซ์สแกม) โดยกลุ่มคนร้ายมักจะใช้ช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ในการหลอกลวง ซึ่งกลุ่มที่มักจะตกเป็นเหยื่อมักจะไม่ค่อยมีความระมัดระวังในการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ จึงทำให้ให้คนร้ายใช้ช่องทางดังกล่าวหลอกลวงให้ได้ไปซึ่งทรัพย์สินจำนวนมาก กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว

      ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท.,พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รอง ผบช.ทท., พล.ต.ต.มล.สันธิกร วรวรรณ ผบก.ทท.1, พ.ต.อ.ศราวุธ ตันกุล, พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ รอง ผบก.ทท.1, พ.ต.อ.แมน รถทอง ผกก.2 บก.ทท.1, พ.ต.ท.พิชญะ เขียวเปลื้อง, พ.ต.ท.สมควร แตงพรม รอง ผกก.2 บก.ทท.1 สั่งการให้ พ.ต.ต.กฤตพร แสงสุระ สว.กก.2 บก.ทท.1 พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน กก.2 บก.ทท.1 ทำการสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับค้างเก่าและเป็นคดีที่น่าสนใจซึ่งส่งผลต่อ ความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวและประชาชนนั้น

โดยเมื่อวันที่ 4 ก.ย. 67 งานสืบสวน กก.2 บก.ทท.1 ได้ทำการจับกุมตัวผู้ต้องหา คือ น.ส.พัชรี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 332/2564 ลงวันที่ 19 ก.ค. 64 ตามข้อกล่าวหา “ร่วมกันฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นคนอื่นและโดยทุจริตหรือโดยการหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น้าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”

จากกรณีเมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2564 น.ส.เสาวณีย์ (นามสมมติ) อายุ 37 ปี ชาวจังหวัดสมุทรปราการ ได้รับความเสียหาย จากการถูกกลุ่มคนร้ายอ้างเป็นชาวต่างชาติใช้ Facebook ชื่อ “Peter Wong” เข้ามาขอเป็นเพื่อน ต่อมาได้ติดต่อกันผ่านทาง Chat จนกระทั่งชายที่อ้างตัวในเฟซบุ๊กดังกล่าวก็ได้เสนอว่าจะส่งพัสดุของมีค่ามาให้ เพื่อแสดงความสัมพันธ์ที่มีต่อกัน ต่อมาไม่นานก็มีบุคคลอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ศุลกากรติดต่อมา แจ้งว่ามีสินค้าเป็นพัสดุส่งมาและภายในเป็นของมีมูลค่าสูง ผู้เสียหายจะต้องชำระค่าปรับภาษีศุลกากรก่อนนำของออก ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อและโอนเงินไปเข้าบัญชีคนร้ายจำนวน 2 ครั้ง

คือโอนครั้งที่ 1 เข้าบัญชีธนาคารทหารไทย เป็นเงินจำนวน 132,000 บาท และครั้งที่ 2 โอนเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย เป็นเงินจำนวน 350,000 บาท ซึ่งรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 482,000 บาทต่อมาผู้เสียหายไม่สามารถติดต่อกับบุคคลในเฟซบุ๊กหรือบุคคลที่อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ศุลกากรได้แต่อย่างใด จึงเชื่อว่าผู้เสียหายน่าจะถูกหลอกจึงได้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้าย ต่อมาพนักงานสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ ภ.จว.สมุทรปราการ ได้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ได้ขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหา คือ น.ส.พัชรีฯ

นอกจากนี้เมื่อตรวจสอบยังพบว่า น.ส.พัชรี ผู้ต้องหา รายนี้มีหมายจับในลักษณะเดียวกัน ดังนี้ 1.หมายจับศาลจังหวัดนครพนมที่ จ.56/2565 ลงวันที่19 เม.ย.65 พื้นที่ สภ.เมืองนครพนม ความเสียหาย 417,000 บาท 2.หมายจับศาลแขวงเชียงรายที่ จ.92/2562 ลงวันที่ 13 ธ.ค.62 พื้นที่ สภ.แม่สาย รวมเสียหาย 435,000 บาท รวมความเสียหายทั้งสิ้น 1,334,000 บาท

ต่อมางานสืบสวน กก.2 บก.ทท.1 ได้ทำการสืบสวนติดตามจับกุมจนกระทั่งสืบทราบว่าผู้ต้องหามีสามีเป็นคนต่างชาติ (คนผิวสี) ได้มาพักอาศัยอยู่ที่ คอนโดย่านช่องนนทรี เขตยานาวา กรุงเทพฯ จึงได้ทำการจับกุมตัวจากการสอบถามเบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ แต่รับว่าเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับจากนั้นได้นำตัว น.ส.พัชรีฯ ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป

ทั้งนี้ กองบัญชาตำรวจท่องเที่ยว ขอแจ้งเตือนประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนหรือนักท่องเที่ยว โปรดใช้ความระมัดระวังในการใช้บริการแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์หาคู่ออนไลน์ นอกจากจะทำให้เสียใจแล้ว ยังอาจทำให้เสียทรัพย์สินอีกเป็นจำนวนมาก และขอให้ใช้สื่อออนไลน์อย่างรู้เท่าทันมิจฉาชีพ ซึ่งมาในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป ไม่ควรเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว และไม่โอนเงินให้กับบุคคลที่ไม่รู้จัก.

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *