“คืนพื้นที่เล่นน้ำให้กับนักท่องเที่ยว” นายกเมืองลุยจัดระเบียบอ่าวพัทยา หวังสร้างพื้นที่ เล่นน้ำ-กีฬาทางน้ำ ให้กับนักท่องเที่ยว
เมื่อวันที่ 2 พ.ย.67 นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา ผู้บริหารเมืองพัทยา นายภูมิพิพัฒน์ กมลนาถ เลขานุการนายกเมืองพัทยา พร้อมด้วย นายมีชัย อินทร์พิทักษ์ ประธานคณะทำงานนายกเมืองพัทยา และรักษาความสงบเรียบร้อยเมืองพัทยา พร้อมด้วยคณะทำงาน เจ้าหน้าที่เจ้าท่า เจ้าหน้าที่เทศกิจเมืองพัทยา ลงพื้นที่ตรวจสอบความคืบหน้าภารกิจ Better Pattaya Bay บริเวณชายหาดพัทยากลาง เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เพื่อจัดระเบียบ เรือสปีดโบ๊ท เรือเจ็ตสกี รวมถึง บานาน่าโบ๊ท ที่จอดเรียงรายอยู่ใกล้กับชาย และ จอดเกยหาดพัทยา จนทำให้เสียพื้นที่ สร้างความเดือดร้อนรำคาญ ให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเล่นน้ำทะเล
สำหรับภารกิจ Better Pattaya Bay เป็นภารกิจพัฒนาชายหาดและอ่าวเมืองพัทยาให้ดียิ่งขึ้น โดยเมืองพัทยากำลังเข้าสู่หน้าไฮซีซั่น และการท่องเที่ยวของเมืองพัทยาได้ฟื้นตัวกลับมาสมบูรณ์แล้ว ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากหลังไหลเข้ามามากยิ่งขึ้น โดยการท่องเที่ยวทางทะเลเป็นอีกกิจกรรมที่เป็นไฮไลต์ของเมืองพัทยา ในส่วนของชายหาดพัทยาจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ความปลอดภัยทางน้ำจึงเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งที่ผ่านมา เรือเจ็ทสกียังไม่มีจุดรับนักท่องเที่ยว เนื่องจากเมืองพัทยาไม่มีท่าสำหรับเรือเจ็ทสกี โดยผู้ประกอบการจะรับผู้โดยสารที่ริมชายหาดตลอดทั้งระยะทาง 2.7 กม. จากพัทยาเหนือ ถึงพัทยาใต้
ทั้งนี้ ทางเมืองพัทยา จึงมีการประสานงานระหว่าง หน่วยป้องกันภัยพิบัติทางทะเล และกรมเจ้าท่าในการประชาสัมพันธ์เรือ และผู้ประกอบการในโซนชายหาดพัทยา เรื่องการสัญจร และการเข้าจอดของเรือสปีดโบ๊ท
โดยเน้นย้ำให้รับนักท่องเที่ยวที่จุดรับ ที่เมืองพัทยา จัดไว้ให้เท่านั้น บริเวณพัทยาเหนือ 1 จุด และพัทยาใต้ 1 จุด และให้ห้ามเรือเจ็ทสกีเข้ามาใกล้ชายฝั่งในระยะ 200 เมตร เพื่อเปิดพื้นที่แนวเล่นน้ำ และกิจกรรมทางน้ำหน้าหาด ให้แก่นักท่องเที่ยว และเพื่อความเป็นระเบียบในการใช้ชายหาดร่วมกัน ตามแนวทางพัทยาโมเดล เพื่อความปลอดภัยของนักที่องเที่ยวที่มาใช้ชายหาดและทะเลพัทยา
โดยมาตรการนี้ได้เริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา วันนี้ ทางเมืองพัทยาจึงมีการลงพื้นที่ เพื่อติดตามความคืบหน้า ซึ่งพบว่า บรรยากาศชายหาดพัทยา เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ผู้ประกอบการเรือเจ็ทสกีส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือ แต่ยังมีฝ่าฝืนอยู่บ้าง ในครั้งแรกจะทำการว่ากล่าวตักเตือนก่อน หากพบยังฝ่าฝืนซ้ำจะมีโทษตามกฎหมาย ซึ่งในส่วนนี้กรมเจ้าหน้าที่จะเป็นผู้รับผิดชอบ อาจจะถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาต ต่อไป…..