ตร.ภาค2 บุกทลายแก๊งอินเดียเปิดเว็บพนันข้ามชาติ พบเงินสะพัด 100 ล้านบาท
เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 11 มิ.ย. พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภาค2 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ฉัตรชัย สุรเชษฐ์พงษ์ รอง ผบช.ภาค2 พ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ผกก.สภ.หนองปรือ และ พ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผกก.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.วีระชัย ถิ่นกมุท สว.สส.ตม.จว.ชลบุรี นำกำลังชุดศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติ และเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี และงานสืบสวนตำรวจท่องเที่ยว กก.2 บก.ทท.1 ได้นำหมายค้นศาลจังหวัดพัทยา เข้าตรวจสอบบ้านพัก เลขที่ 100/7 ม.12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังสืบทราบว่ามีการลักลอบเปิดเว็บพนันออนไลน์ข้ามชาติ
จากการตรวจสอบบ้าน 2 ชั้น ขนาดใหญ่ มีรั้วรอบขอบชิด และสระน้ำในตัวบ้าน โดยชั้นล่างพบชาวอินเดีย จำนวน 8 คน ทำหน้าที่เป็นแผนกแอดมินเว็บพนันออนไลน์กำลังนั่งหน้าคอมพิวเตอร์ แชทพูดคุยดูแลลูกค้า และควบคุมระบบการฝากถอนเงิน ขณะที่ห้องนอนบนชั้นสอง พบชายชาวอินเดียอีก 13 คน นอนหลับพักผ่อนอยู่ รวมทั้งหมด 21 คน ตำรวจจึงเชิญตัวชาวอินเดียทั้งหมดลงไปชั้นล่างเพื่อตรวจสอบเอกสาร
ทั้งนี้ การตรวยสอบพบว่าชายชาวอินเดีย ไม่มีพาสปอร์ต 8 คน ส่วนที่เหลือมีพาสปอร์ตครบถ้วนถือวีซ่านักเรียนต่างชาติ โดยสามารถยึดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก จำนวน 8 เครื่อง โทรศัพท์มือถือกว่า 100 เครื่อง ซิมการ์ดจำนวนมาก สมุดจดบันทึกรายชื่อลูกค้า ขณะที่ตามผนังบ้านมีกระดาษกฏระเบียบพนักงานแอดมินเป็นภาษาอินเดียแปะอยู่ โดยระบุว่า ห้ามดื่มสุราระหว่างทำงาน ห้ามเข้างานสาย และห้ามรบกวนผู้อื่น เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน
พล.ต.ต.ฉัตรชัย รอง ผบช.ภาค2 เผยว่า การจับกุมสืบเนื่องจาก ศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติ ได้สืบทราบว่าบ้านหลังดังกล่าว มีชาวอินเดีย ได้เช่าบ้านหลังดังกล่าวตั้งแต่เมื่อเดือนสิงหาคม ปีที่แล้ว โดยพบความผิดสังเกตขึ้นจากมีคนอินเดียจำนวนมากพักอาศัยอยู่แต่ภายในบ้าน จะปรากฏตัวก็ต่อเมื่อออกมารับ หรือออกไปซื้อวัตถุเพื่อทำหาร ประกอบกับค่าไฟพุ่งสูงถึงเดือนละ 3-4 หมื่นบาทต่อเดือน จึงใช้เวลาทำการสืบสวนเรื่อยมา จนมั่นใจชาวอินเดียใช้เมืองพัทยาเป็นฐานเปิดเว็บพนันข้ามชาติ
ต่อมา จึงรวบรวมพยานหลักฐาน ขออำนาจศาลจังหวัดพัทยา ออกหมายค้น สนธิกำลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบดังกล่าว ทั้งนี้ พบว่าชาวอินเดียกลุ่มนี้ ได้ดูแลเว็บพนันออนไลน์ถึง 7 เว็บ และมีลูกพี่ใหญ่เป็นคนอินเดีย ซึ่งอยู่ระหว่างตามตัวมาสอบสวน โดยพบว่ามียอดเงินหมุนเวียนกว่า 200 ล้านรูปี คิดเป็นเงินไทยประมาณ 100 ล้านบาท ผ่านระบบบัญชีธนาคารที่ประเทศอินเดีย ส่วนระบบเซิร์ฟเวอร์เว็บ ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าอยู่ที่ใดซึ่งอยู่ในระหว่างการสืบสวนหาข่าว
เบื้องต้น ได้ควบคุมตัวชาวอินเดียทั้งหมด 21 คน พร้อมของกลางไปทำสำนวนบันทึกจับกุมยัง สภ.เมืองพัทยา พร้อมประสานงาน ตม.จว.ชลบุรี ตรวจสอบการเดินทางว่าเข้าออกเมืองถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ พร้อมขึ้นแบล็คลิสต์บัญชีดำสั่งห้ามเข้าประเทศไทย ก่อนส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี เร่งขยายผลว่าชาวอินเดียกลุ่มนี้มีเครือข่ายอยู่ที่ใดในประเทศไทยบ้าง เพื่อดำเนินการกวาดล้างให้สิ้นซาก.